พบกันอีกครั้งกับคน รักสุขภาพ เมื่อเราได้รับผลกระทบที่รุนแรงจากมลภาวะ ฝุ่น PM 2.5 ที่เข้ามาทำให้เมืองทั้งเมืองเต็มไปด้วยหมอกควันมากมายที่นอกจากทัศนียภาพการเดินทางไม่ชัดเจนแล้วในช่วงเวลาเช้า ๆ ก็ยังทำให้สุขภาพของผู้คนเกิดปัญหาจนเข้า – ออกโรงพยาบาลบ่อยมาก แม้ว่าจะเป็นในจังหวัดเล็ก ๆ ที่เคยมีอากาศบริสุทธิ์ เต็มไปด้วยธรรมชาติและขุนเขาก็ยังได้รับผลกระทบจากฝุ่นอันตรายนี้ด้วย คนทั่วไปอาจคิดว่า PM 2.5 ก็เป็นแค่ฝุ่นทั่วไปเหมือนอย่างที่ในอดีตหลายจังหวัดเคยได้รับผลกระทบทางอากาศมาแล้ว ซึ่งก็อยู่กันได้สบาย ๆ เพียงแค่ต้องแต่งกายให้รัดกุมและรอเวลาให้ฝุ่นค่อย ๆ จางไปก็เท่านั้น แต่ความจริงแล้วฝุ่น PM 2.5 เป็นฝุ่นละออง ขนาดจิ๋วที่มีขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอนที่มีระดับความเข้มข้นและความรุนแรงที่มาก บางช่วงเวลาที่เราคิดว่าจางไปแล้ว ที่จริงก็ยังคงเต็มอยู่ในอากาศแล้วเราก็สูดเข้าไปจนส่งผลเสียต่อร่างกายง่าย ๆ จึงต้องมีหน้ากากอนามัย ไม่เช่นนั้นคุณอาจเกิดโรคเหล่านี้ที่มากับ PM 2.5 ได้ง่าย ๆ
รู้จักกับ โรคที่มักมากับ ฝุ่น PM 2.5
“ปอดอักเสบ” โรคที่มักมากับ PM 2.5
“ปอดอักเสบ” เป็นโรคที่มักมากับ PM 2.5 เนื่องจากปอดเป็นอวัยวะที่ทำการฟอกอากาศเข้าร่างกายโดยตรงซึ่งหากเราได้สูดฝุ่น PM 2.5 เข้าสู่จมูก ความเข้มข้นของฝุ่น PM 2.5 ก็จะทำให้ปอดเกิดกระบวนการแลกเปลี่ยนออกซิเจนทำงานได้ไม่ดี มีพิษเกิดขึ้นจนติดเชื้อในที่สุด โดยอาการที่พบได้รวดเร็วก็จะเป็นอาการไอ หอบ หายใจไม่สะดวก และเลือดกำเดาไหลออกมาจำนวนมาก โดยเฉพาะในเด็กและผู้สูงอายุที่ปอดพวกเขาจะได้รับผลกระทบจากฝุ่น PM 2.5 ได้ง่ายมาก
“แพ้อากาศ” โรคที่มักมากับ PM 2.5
“แพ้อากาศ” เป็นโรคที่มักมากับ PM 2.5 ด้วยอากาศของเมืองที่เราอยู่ทุกที่ล้วนแล้วแต่เต็มไปด้วยฝุ่น PM 2.5 ที่ลอยอยู่ในอากาศมากมายทำให้เมื่อสูดเข้าไปแล้ว เราก็จะเกิดอาการภูมิแพ้จากอากาศที่ทำให้จามบ่อย น้ำมูกใส ๆ ไหลออกมาอย่างไม่มีสาเหตุ คัดจมูก และส่งผลให้เป็นไข้ รวมถึงลุกลามเป็นไซนัสอักเสบเรื้อรังได้ง่าย ๆ ฉะนั้นใครที่มีโรคประจำตัวอย่างการแพ้อากาศอยู่แล้วต้องระวังฝุ่น PM 2.5 ให้ดี
“ตากุ้งยิง” โรคที่มักมากับ PM 2.5
“ตากุ้งยิง” เป็นโรคที่มักมากับ PM 2.5 เพราะแม้ว่าเราจะมีการสวมใส่หน้ากากอนามัยป้องกันปากและจมูกแล้ว แต่ดวงตาของเรานั้นจะไร้ซึ่งที่ป้องกันจึงทำให้ฝุ่น PM 2.5 เข้ามาสู่ดวงตาของเราจนเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้มีอาการอักเสบบริเวณต่อมไขมันหรือต่อมเหงื่อบริเวณเปลือกตาซึ่งเป็นจุดที่ได้รับผลกระทบจากฝุ่นละอองมากที่สุด แม้ว่าดวงตาของเราจะมีขนตาคอยป้องกันฝุ่นไม่ให้เข้าตาอยู่ แต่เมื่อปริมาณฝุ่นละอองในอากาศมีมากเกินไปก็ทำให้ขนตาเราไม่อาจรับไหวได้จนมีฝุ่นบางส่วนเข้าไปสู่ดวงตาเราเกิดเป็นตากุ้งยิงในที่สุด จึงควรมีการสวมแว่นตาทุกครั้งที่ออกนอกบ้านช่วงที่เกิดภาวะฝุ่น PM 2.5
อัพเดทสาระดีๆ รักสุขภาพ เพิ่มเติมที่ The7days
