พบกันอีกครั้งกับคน รักสุขภาพ เชื่อว่าทุก ๆ คนย่อมจะเคยพบปัญหาเรื่องแผลในช่องปากอย่างแผลร้อนในหรือแผลที่อาจเกิดจากอุบัติเหตุ เช่น การรับประทานอาหารแล้วเผลอเคี้ยวไปโดนจุดต่าง ๆ ในช่องปากตัวเอง การแปรงฟันอย่างแรงแล้วไปกระแทก เป็นต้น ซึ่งมันก็ทำให้ในปากของเราเต็มไปด้วยแผลมากมายเป็นจุด ๆ ที่ทำให้รู้สึกเจ็บแต่ก็ยังพอทน เพราะเราสามารถรับประทานอาหารโดยหลีกเลี่ยงไม่ให้อาหารหรือน้ำไม่สัมผัสถูกกับแผลในช่องปากแบบน้อยที่สุดได้ ทว่าจะเกิดอะไรขึ้นเมื่อจู่ ๆ ขณะเรารับประทานอาหาร ดื่มเครื่องดื่ม หรือพูดสื่อสารต่าง ๆ ก็เกิดความรู้สึกเจ็บแสบแปลบ ๆ ในคอซึ่งมันไม่ใช่แค่แสบเหมือนเวลาที่คอของเราอักเสบปกติเท่านั้น แต่มันเป็นความเจ็บจี๊ด

            พบกันอีกครั้งกับคน รักสุขภาพ เมื่อกล่าวถึง “โรคคอพอก” หลายคนอาจสงสัยว่า มันคือโรคอะไรกัน ไม่เคยได้ยินมาก่อน เพราะโรคเกี่ยวกับคอที่เรารู้จักก็มักจะเป็นโรคท็อลซินอักเสบและโรคหลอดลมเป็นหลัก แต่โรคคอพอกคือโรคที่ค่อนข้างไกลตัวคนทั่วไปมากจนใคร ๆ ต่างก็รู้สึกว่าแค่ชื่อก็ชวนให้สงสัยแล้ว หากได้เห็นอาการของโรคจะแปลกขนาดไหน แน่นอนว่าแม้โรคคอพอกจะเป็นโรคที่เกิดขึ้นได้น้อยสำหรับคนทั่วไป แต่ก็มีความอันตรายต่อการใช้ชีวิตด้วยเช่นกัน ไม่ใช่แค่ส่งผลต่อความน่ารำคาญด้วย เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งโรคที่น่ารู้จักและอันตรายกว่าโรคคออื่น ๆ ที่คุณเคยพบเห็นมาเลย ซึ่งโรคคอพอกจะเป็นเช่นไรวันนี้เรามาดูกันเลยดีกว่า เพราะบางคนกว่าจะรู้ว่าตัวเองเป็นโรคคอพอกก็ปล่อยให้คอตัวเองบวมใหญ่จนเกิดผลเสียต่อร่างกายเยอะแล้ว แต่หากเราตระหนักถึงความสำคัญของโรคนี้แล้วสังเกตอาการเมื่อรู้สึกถึงความผิดปกติของคอก็จะไปหาหมอได้ทัน ทำความรู้จักกับ “โรคคอพอก”             “โรคคอพอก”

            พบกันอีกครั้งกับคน รักสุขภาพ หากคุณเป็นคนที่มีน้ำหนัก 60 กิโลกรัมขึ้นไปล่ะก็เกณฑ์ของคุณนั้นอยู่ใน “เกณฑ์คนอ้วน” ที่ต้องมีการลดน้ำหนักให้กลับมาอยู่ในเกณฑ์ปกติให้ได้ เพราะหากคุณมีมวลน้ำหนักอยู่ในเกณฑ์ที่ปกติแล้วล่ะก็นอกจากคุณจะหล่อสวยแบบเป็นธรรมชาติแล้ว ก็ยังไม่ต้องทนกับความเหนื่อยล้าของการรับมวลร่างกายตัวเองที่เยอะจนเหนื่อยกับการเคลื่อนไหวมากกว่าคนปกติหลายเท่า และที่สำคัญ คือ คุณจะไม่เสี่ยงต่อการเกิดโรคในคนอ้วนด้วยหากเวลาผ่านไปและร่างกายเริ่มเข้าสู่สภาวะที่อ่อนแอลงจากกิจกรรมต่าง ๆ ที่ทำในชีวิตประจำวัน รวมถึงพฤติกรรมที่คนอ้วนจะยิ่งติดเป็นนิสัย คือ รับประทานอาหารจุบจิบบ่อยในระหว่างมื้อ และไม่ค่อยชอบการออกแรง ยิ่งเวลาเครียดก็ยิ่งรับประทานอาหารเยอะมากขึ้นจนอ้วนหนักกว่าเดิม ซึ่งเสี่ยงมากกับการที่จะเกิด 3 โรคนี้ที่มักจะพบได้บ่อยใน คนอ้วน ให้คุณระวังและอย่างน้อยก็ควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการรับประทานอาหารไม่ให้อ้วนมากกว่านี้ก็ยังดี 3

            พบกันอีกครั้งกับคน รักสุขภาพ เป็นธรรมดามากที่ทุกคนจะมีอาการท้องอืดในเวลาที่เรารับประทานอาหารเยอะแบบจุก ๆ เมื่อไม่นานหรือตื่นมาแล้วก็ท้องอืด แต่พอได้ขับถ่ายก็หายดีแล้ว ทว่าสำหรับบางคนนั้นอาการท้องอืดกลับเป็นปัญหาที่ไม่คิดว่าจะใหญ่ขนาดนี้ได้เมื่ออาการท้องอืดไม่ได้อยู่แค่ระยะเวลาสั้น ๆ แต่มันกลับกลายเป็นภาวะที่ยืดยาวไปร่วมหลายวันจนตอนนี้ก็ยังไม่หาย และพอหายก็กลับมาท้องอืดอีก ซึ่งเราเรียกอาการนี้ว่า “ท้องอืดเรื้อรัง” ทำให้เราเกิดความรู้สึกไม่สบายท้องตลอดเวลา รับประทานอาหารก็น้อยลง ทำให้หิวระหว่างมื้อง่าย ๆ แต่ก็รับปริมาณอาหารไม่ได้มากเหมือนกันด้วยความอึดอัดในท้อง เหมือนมีลมและลำไส้ยังบีบในหลายครั้งด้วยแต่ก็ยังถ่ายไม่ออก ใคร ๆ ก็รู้สึกได้ว่าอาการท้องอืดเรื้อรังเป็นอาการที่ผิดปกติ แต่มันเกิดขึ้นจากอะไรมาอ่านกันเลย เมื่อรู้แล้วคุณจะได้หาวิธีรักษาที่ตรงกับสาเหตุได้โดยที่ไม่ต้องปล่อยให้มีการท้องอืดเรื้อรังแบบนี้ติดต่อกันไปนาน 3

            พบกันอีกครั้งกับคน รักสุขภาพ หากจะกล่าวถึงการแพ้อาหารแล้วล่ะก็แน่นอนว่า ประเภทอาหารที่ได้ชื่อว่ามีคนแพ้มากที่สุดในโลกย่อมจะเป็น “อาหารทะเล” โดยเฉพาะอาหารทะเลที่เป็นสัตว์มีเปลือก เพราะอาหารทะเลมักจะมีสารที่ทำให้คนแพ้ได้ง่าย ส่งผลกระทบต่อภูมิคุ้มกันโดยตรงอย่าง “โทรโปไมโอซิน” ซึ่งเป็นโปรตีนที่พบในสัตว์ทะเลเปลือกแข็ง หรือมีกระดอง  และอาหารทะเลที่คนแพ้มากที่สุดก็คือ “กุ้ง”ด้วย จะแพ้อะไรไม่แพ้ กลับแพ้อาหารทะเลที่อร่อยที่สุดเลยซะงั้น บางคนก็แพ้มากแพ้น้อยแตกต่างกันออกไป แต่เคยแปลกใจหรือไม่ว่า สำหรับบางคนแล้วก็จะไม่ได้ แพ้กุ้ง ทุกครั้งที่รับประทาน บางครั้งรับประทานอาหารที่มีส่วนผสมของกุ้งหรือตัวกุ้งก็มีอาการแพ้ แต่บางครั้งก็ไม่มีอาการแพ้ แน่นอนไม่ใช่แค่คุณคนเดียว เพราะเราก็เป็นเหมือนกัน

            พบกันอีกครั้งกับคน รักสุขภาพ เชื่อว่า ทุกคนย่อมต้องเคยเห็นสีอุจจาระของตัวเองที่มีความแตกต่างกันในบางวัน ซึ่งหากเป็นสีที่แตกต่างกันออกไปแต่เกิดขึ้นซ้ำ ๆ เดิม ๆ บ่อยครั้งและไม่มีอาการใดที่น่าเป็นห่วงต่อสุขภาพหรือขัดต่อการทำกิจกรรมในชีวิตประจำวันของเราแล้วล่ะก็คงไม่ใช่เรื่องที่ทำให้เครียดหรือน่าให้ความสนใจใด ๆ นัก แต่เมื่อไหร่ที่สีของอุจจาระเรามีสีที่แปลกจนไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นกับกระบวนการผ่านลำไส้ของเราหรือเกี่ยวข้องกับเมนูอาหารที่เรารับประทานได้ อีกทั้งยังมีอาการในช่องท้องร่วมด้วยก็ต้องสังเกตความผิดปกติและควรไปพบแพทย์หากมีอาการในช่องท้องที่หนักมากขึ้นด้วย แต่ในเบื้องต้นหากเราพบความผิดปกติของอุจจาระในด้านสีก็สามารถจะตรวจสอบกลุ่มโรคที่เรามีโอกาสเสี่ยงเกิดในเวลานี้ได้จากสีของอุจจระเช่นกัน ซึ่ง สีอุจจาระ ต่าง ๆ สามารถบ่งบอกโรคหรือสุขภาพของเราในลักษณะใดได้บ้างมาดูกันเลย! สีอุจจาระ บ่งบอกโรคหรือสุขภาพของเรา อุจจาระสีน้ำตาล อุจจาระสีน้ำตาล เป็นอุจจาระสีปกติที่เกิดจากกระบวนการย่อยอาหารที่ดีทำให้เหล่าอาหารที่ถูกย่อยรวมตัวกันจนแปรรูปมาเป็นสีน้ำตาล หากพบอุจจาระสีนี้หรือมีสีน้ำตาลปนเหลืองหน่อย ๆ